กาวิสคอน (Gaviscon) เป็นชื่อที่คุ้นเคยในหมู่ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น อาการกรดไหลย้อน และอาการแสบร้อนกลางอก ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหารกาวิสคอนมีหลายสูตรและสีที่แตกต่างกัน โดย กาวิสคอนสีชมพู สรรพคุณ ดีกว่าสีอื่นไหม ทำไมเป็นหนึ่งในสูตรที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีส่วนผสมของยาลดกรดที่เพิ่มเข้ามา
กาวิสคอนสีชมพูสรรพคุณและการออกฤทธิ์
กาวิสคอนสีชมพู หรือ Gaviscon Dual Action มีสรรพคุณช่วยป้องกันกรดไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารและลดการระคายเคืองได้ดี ในขณะที่แคลเซียม คาร์บอเนตมีหน้าที่ลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยให้อาการแสบร้อนบริเวณกลางอกและอาหารไม่ย่อยจากกรดเกินได้รับการบรรเทาเป็นสูตรที่มีการผสมของโซเดียม อัลจิเนต (Sodium alginate) และแคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium carbonate) ในปริมาณที่สูงกว่าสูตรอื่นๆ โซเดียม อัลจิเนตทำหน้าที่เมื่อสัมผัสกับกรดในกระเพาะอาหาร จะพองตัวเป็นเจลที่มีความหนืดและลอยตัวเป็นแพอยู่บนผิวของอาหารที่ถูกย่อยอยู่ในกระเพาะอาหาร
การใช้งานและข้อควรระวัง
การใช้กาวิสคอนสีชมพูควรตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร โดยปกติแล้วผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปีจะทานครั้งละ 10-20 มิลลิลิตร วันละ 4 เวลา หลังอาหารและก่อนนอน สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไตหรือโรคหัวใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา เนื่องจากส่วนประกอบบางอย่างในยาอาจมีผลต่อสภาพโรค หากต้องการข้อมูลกาวิสคอนมากขึ้นอ่านเพิ่มได้ที่ กาวิสคอน กินตอนไหน
ความแตกต่างระหว่างกาวิสคอนสีชมพูและสีอื่น
กาวิสคอนสีชมพูมีความแตกต่างจากสูตรอื่นๆ โดยเฉพาะสีเขียว ในแง่ของปริมาณตัวยาและระยะเวลาออกฤทธิ์ สีชมพูมีแคลเซียม คาร์บอเนตมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับสีเขียว ทำให้ออกฤทธิ์ช้าแต่ยาอยู่ได้นาน ในขณะที่สีเขียวมีโซเดียม ไบคาร์บอเนตมากกว่า ซึ่งเป็นตัวยาลดกรดที่ออกฤทธิ์ได้เร็วแต่ฤทธิ์ของยาคงอยู่ไม่นาน
คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ
การใช้กาวิสคอนเพื่อบรรเทาอาการกรดไหลย้อนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกรดไหลย้อนควรปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร เช่น อาหารเผ็ด อาหารมัน และน้ำอัดลม นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร และควรมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
กาวิสคอนสีชมพูเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการกรดไหลย้อนและอาการแสบร้อนกลางอก ด้วยส่วนผสมที่เหมาะสมและการออกฤทธิ์ที่ยาวนาน อย่างไรก็ตาม การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและควรร่วมกับการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
